วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[Fic] #KaiQian - Drug for Daily Love ep.6



-6-





ผมกลับบ้านมาด้วยรอยยิ้ม


ป๊ากับม๊าคงคิดว่าเป็นเพราะขายสลัดหมดตั้งแต่วันแรก อันที่จริงมันก็ใช่นะครับ แต่ก็เป็นแค่เหตุผลรองเท่านั้นแหละ


เหตุผลหลักของผม...คือคนที่มาซื้อคนสุดท้ายมากกว่านะ


“เหนื่อยเลยนะเฮีย ทำงานธนาคารดีๆไม่ชอบดันชอบเป็นพ่อค้า” จวิ้นหลินเดินเข้ามาหาผมในห้องพร้อมกับสมุดการบ้าน นั่งแหม่ะอยู่บนเตียงผม ผมกำลังนั่งตัดเล็บเท้าอยู่ ตอนเก็บของเผลอเดินสะดุดฟุตบาทครับ วันนี้ไม่ได้ใส่ผ้าใบมาอีก เล็บเกือบขาดแหน่ะ แหม่ เจ้าน้องชายก็อดแซะผมไม่ได้เลยนะครับ หยุดบ้างก็ได้เว้ยยย

“เหนื่อยแต่มีความสุขเว้ย” พูดจบผมก็อมยิ้ม ก็นะ ความสุขของผมมาให้เห็นถึงตรงหน้า เป็นใครก็อดยิ้มไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ จริงไหม

“เฮียจะมีความสุขอะไรก็เรื่องของเฮีย แต่เฮียต้องสอนการบ้านเลขพร้อมกับติวให้ผมด้วย” นี่น้องชายหรือป๊าครับเนี่ย สั่งคำสั่งยาวเป็นหางว่าวเลย สงสัยคงต้องเรียกพี่เค้าว่าเฮียใหญ่แล้วมั้งครับเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

หลังจากที่สอนการบ้านคุณเฮียใหญ่เสร็จเรียบร้อย ผ่านไปสองชั่วโมง ตอนแรกผมคิดว่าจะมานั่งตรวจบัญชีที่ทำค้างไว้ให้เสร็จ แต่...ขี้เกียจแล้วอ่าครับ ขอนอนเล่นมือถือ ตากแอร์สบายๆ แล้วค่อยมาทำตอนเที่ยงคืนละกัน

ทุกๆวันผมจะเช็ค moment ใน wechat วันละ 1 ครั้ง ซึ่งวันนี้ผมยังไม่ได้กดเข้าไปดูเลยครับ ขอดูสักหน่อยละกันว่าเพื่อนๆหรือแม้กระทั่งคุณเภสัช จะอัพอะไรไว้บ้างน้า เลื่อนๆไปก็เจอแต่เพื่อนมันอัพรูปไปเที่ยวยุโรปรัวๆ บ้าง ไปเรียนต่อปริญญาเอกกันบ้าง ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ...แต่งงานครับ เฮ้อ พอเห็นภาพเพื่อนๆแต่งงานแล้วผมก็ใจหวิวๆอยู่เหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่ากลัวจะไม่ได้แต่งนะ กลัวชาตินี้จะไม่มีแฟนเลยซะมากกว่า โสดมาก็ 3 ปีแล้วนะ...

พอๆหวังจวิ้นข่าย อย่าขุดอดีตขึ้นมาให้หน่วงใจ มันจบไปแล้ว แล้วนายก็ควรเริ่มต้นใหม่กับ...



อร้ากกกกกกกกกกกกก นี่มัน นี่มัน นี่มันนนนนนนนนนนนนนนนนนน


ผมมือสั่นจนมือถือจะตกลงไปกองกับเตียงแล้ว ใจสั่นระดับ 7 ริกเตอร์ หัวใจมันแทบจะระเบิดออกมา TT____TT


แพนเค้กที่ผมทำให้คุณเภสัช แล้วคุณเภสัชมาอัพลง moment อ่ะ จากที่กำลังจะหน่วง พอเห็นโพสนี้แล้วผมอารมณ์ดีขึ้นมาทันเลยครับ โอ้ยยยยยย ผมดีใจมาก ดีใจจนอยากจะกรี๊ดออกมา แต่นี้ก็จะสี่ทุ่มแล้ว คงจะกระโดดโลดเต้นไม่ได้แล้วครับ เดี๋ยวป๊าม๊าน้องมจะตื่นเอา


แล้วดูแคปชั่นใช้ “ญาติคนไข้ให้ผมมาครับ” แล้วมีอีโมยิ้มด้วยอ่ะ ฮื่ออออออ


ไม่บอกว่าผมให้มาก็ไม่เป็นไรครับ แค่นี้รอยยิ้มแมวๆของผมก็หุบไม่ลงทั้งคืนแล้วครับทุกคน ><


ขอทักทายคุณเค้าสักหน่อยก็แล้วกัน


Junkai : แพนเค้กอร่อยไหมครับ


ทักทายเสร็จผมก็วางมือถือพร้อมกับเอาหน้าซุกหมอนรัวๆ ว้อยยยย ผมเป็นอะไรครับเนี่ย ทำไมถึงเขินได้ขนาดนี้หวังจวิ้นข่ายยยยย


คุณเภสัชอัพรูปตอนสองทุ่มครึ่ง ตอนนี้ก็สี่ทุ่มแล้ว ป่านนี้คงจะนอนแล้วมั้งครับ วันนี้ผมเห็นเค้าดูเหนื่อยๆนะ พรุ่งนี้เช้าก็อาจจะตื่นมาตอบแชทผม


แต่ผิดคาด... โทรศัพท์มือถือของผมแจ้งเตือนขึ้นมา คุณเค้าตอบแชทผมตอนตีสอง ซึ่งผมเองก็นั่งทำงานอยู่ ผมไม่รีรอรีบคว้ามือถือขึ้นมาดูทันที

Qianxi : อร่อยดีนะครับ แต่แป้งบางไปหน่อย

Junkai : วันหลังผมทำทานอีกนะครับ เอ ว่าแต่ ทำไมคุณนอนดึกจังเลยครับ

Qianxi : ปั่นงานน่ะครับ เพิ่งเสร็จเมื่อกี้เลย

ผมรีบถามเค้าไปด้วยความเป็นห่วง ก็แหงล่ะสิ ทำงานไม่เป็นเวลา ออกเวรเช้าแทนที่จะได้พักผ่อน กลับกลายเป็นว่าต้องมาทำงานงกๆอีก ตีสองแล้ว ขอให้คำตอบของคุณเภสัชต่อไปนี้ตอบผมว่าเข้าเวรดึกด้วยเถอะครับ

Junkai : โหย งานเยอะอะไรขนาดนั้นครับ หวังว่าพรุ่งนี้คุณไม่ได้เข้าเวรเช้าใช่ไหม

Qianxi : ทายผิดแล้วครับ ผมทำงานอีกทีตอน 7 โมงเช้าน่ะ

เฮ้ย ให้ตายเถอะ ทำไมงานมันหนักขนาดนี้เนี่ย ถึงว่าทำไมเพื่อนผมที่ทำงานโรงพยาบาลรัฐถึงลาออกรัวๆ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับ

Junkai : ทำไมงานหนักขนาดนี้ครับ วันนี้ผมเห็นคุณเภสัชดูเหนื่อยๆ แสดงว่านอนน้อยติดๆกันแบบนี้หรอครับ

Qianxi : ใช่ครับ แต่ผมชินละ ฮ่าๆๆๆๆๆ ว่าไปคุณก็นอนดึกเหมือนกันนะ

ยังจะมีอารมณ์มาหัวเราะใส่ผมอีก ฮือออ ทำไมน่ารักๆๆๆ >< หวังจวิ้นข่ายนายควรให้คุณเภสัชไปพักได้แล้วนะ มัวแต่มาฟงมาฟินอะไรอยู่ได้ !!!

Junkai : ผมก็ทำงานเหมือนกันครับ ฮ่าๆ งั้นผมไม่กวนคุณแล้ว รักษาสุขภาพนะครับ หลับฝันดีครับ
ผมเพ่งหน้าจอมือถืออย่างใจจดใจจ่อ คราวนี้คุณเค้าจะบอกฝันดีผมไหม...

ตึกๆ....ตึก...ตึกๆ...(เสียงหัวใจผมเองครับ)

Qianxi : ขอบคุณครับ ผมจะพยายาม ฮ่าๆๆๆ ฝันดีเช่นกันครับ

Junkai : Sent Sticker


อร้ากกกกกกกกกกกกกก หวีดรอบที่สองงงงง หวีดยามดึก หวีดๆๆๆๆ ฮื่ออออออออออออออออ


คุณเค้าบอกฝันดีผมแล้วครับบบบ โอ้ยยยยย


แล้ววันนี้ก็จบลงด้วยรอยยิ้ม ผมวางโทรศัพท์ของผมลงอย่างเบามือ นั่งกอดหมอนพร้อมกับปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย ผมคิดว่าความสุขเล็กๆเริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจของผม ตั้งแต่วันแรกที่ผมพบกับคุณเภสัช ชีวิตของผมมีความสดใส ปกติผมเป็นคนที่เกลียดการรอคอยที่สุด แต่การรอคอยคุณคนนี้ ผมไม่เคยเบื่อเลยสักนิด แต่กลับทำให้หัวใจของผมเต้นระรัวมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมมานานแล้วครับ และผมยินดีที่จะให้มันเกิดขึ้นกับผมไปเรื่อยๆ


เอาล่ะหวังจวิ้นข่าย มัวแต่พูดพร่ำทำเพลง ไม่หลับไม่นอน จะตีสามแล้ว ฮ่าๆๆ คืนนี้คงเป็นคืนที่ผมฝันดีที่สุดอีกคืนหนึ่ง


ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ บ๊ายบาย

Qianxi’s Part


4 ชั่วโมงผ่านไปกับการนอนอันน้อยนิดของอี้หยางเชียนซี...
ผมตื่นมาพร้อมกับความมึนหัว เป็นเพราะว่าผมนอนดึก(มาก)ตื่นเช้าติดกันมาสองอาทิตย์แล้วครับ แต่ผมก็ชินกับร่างกายในสภาวะนี้แล้วครับ ดื่มกาแฟมอคค่าสักแก้วเดี๋ยวก็สดชื่นแล้ว

ตื่นมาปุ๊บก็รีบคว้ามือถือปั๊บตามนิสัย มีแจ้งเตือนวีแชท 1 ข้อความ เมื่อคืนพอผมบอกลาเค้าปุ๊บ ตาก็ปิดปั๊บเลยครับ ไม่ได้ยินถึงเสียงแจ้งเตือนอะไรทั้งนั้น

คุณจวิ้นข่ายส่งสติ้กเกอร์เจ้ากระต่ายนอนเกาก้นมาให้ผม.....


กวนตี---จังเลยครับ ฮ่าๆๆๆ

ผมเลื่อนข้อความที่คุยกันเมื่อคืน และผมก็พบว่าผมพิมพ์คำว่าฝันดีไป เฮ้ย....เราไม่ได้ตั้งใจจะพิมพ์นะ สงสัยผมคงเบลอมากจริงๆเลยพิมพ์ส่งไป แต่ช่างเถอะครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษสักหน่อย

ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แล้วผมจะเลื่อนย้อนอ่านทั้งหมดทำไมครับเนี่ย ความคิดกับการกระทำย้อนแย้งกันมากมาย ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะอ่านซ้ำทำไม ก็ปล่อยๆมันไปสิ


ช่างเถอะอีกรอบครับ อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานดีกว่า


เช้าวันนี้ผมซื้อเวรมาจากรุ่นพี่ ทำให้ผมต้องทำงานเช้าติดกันสองวัน อาทิตย์หน้าผมจะได้ไปเที่ยวเล่นในเมืองดูบ้าง อยู่มาก็เดือนนึงแล้ว ยังไม่ได้ออกไปสำรวจเมืองนี้เลยครับ


อยากจะลองเป็น Backpacker ดูสักครั้งหนึ่ง


“สวัสดีเชียนซี ซื้อเวรมาจากอี้เฟยเจียหรอ” พอเข้าห้องมาปุ๊บ รุ่นพี่ก็ทักทายผม

“ครับ” ผมนั่งลงที่โต๊ะพร้อมกับเปิดดูประวัติการใช้ยาคนไข้ที่ผมต้องราวน์ในวันนี้ เอ๊ะ หมอที่จะราวน์ด้วยไม่ใช่คุณหมอจิ่งเถียน แต่เป็น...

‘นพ.หวังหยวน’

เฮ้ย นี่มันหวังหยวนเพื่อนสมัยมัธยมของผม โลกกลมเอามากๆ ไม่ได้เจอกันก็ร่วม 6 ปี เจอกันครั้งล่าสุดก็ตอนกีฬาเฟรชชี่อ่ะครับ มันจะตกใจไหมที่ได้มาเจอผมอีกครั้งหนึ่ง มันต้องล้อผมแน่เลยว่าผ่านไปหลายปีทำไมหน้าไม่เปลี่ยน ฮ่าๆๆๆ

ตกใจอยู่ได้แป๊บนึง หวังหยวนก็เดินมาเซ็นชื่อแล้วครับ มาในชุดกาวน์สั้นของ intern โอ่ย มันหล่อขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนมัธยมผมก็ว่าลุคมันก็หมอแล้วนะ ตอนนี้นี่โคตรของโคตรหมอเลยครับ ไม่แปลกใจเลยที่สายตาของพี่พยาบาลมองมาที่มันคนเดียว ออร่าเปล่งปลั่งมาก ผมอิจฉา อยากให้พี่สาวมองแบบนี้มั่ง ฮ่าๆๆๆ

“อ้ะ พี่พยาบาลครับ แล้วเภสัชที่จะมาราวน์กับผมอ่าครับ” เสียงของหวังหยวนที่ถามพี่พยาบาลดังเข้ามาถึงในห้องยาเลยครับ พอผมได้ยินเข้าก็รีบเดินออกไปจากห้องทันที

“นี่ค่ะคุณหมอ” พี่พยาบาลชี้มาทางผม หวังหยวนหันมาทำหน้าเหวอแบบอลังการมาก ผมยิ้มบางๆให้กับมัน มันคงตกใจน่าดูเลยสินะ สีหน้ามาเต็มมาก ระดับตุ๊กตาทอง

“เฮ้ย เชียนซีใช่ไหม” คำทักทายแรกคือเป็นกันเองมาก ผมพยักหน้าตอบ หวังหยวนยิ้มกว้างมากๆ กว้างซะจนจะฉีกถึงรูหู โอ่ย แค่เจอเพื่อนจะดีใจอะไรขนาดนั้นครับ

“ฉันอยากเจอนายมานานมากเลยนะ ส่งทั้งวีแชทไป ทั้งโทรไป ทำไมนายไม่เห็นตอบฉันเลย” จากสีหน้ายิ้มแย้มก็กลายมาเป็นสีหน้าที่มีความแอบค้อนเล็กน้อย อารมณ์เปลี่ยนไวเชียวนะคุณเพื่อน

“ฉันเปลี่ยนจาก oppo เป็น iphone น่ะ เลยต้องเปลี่ยนใหม่ทุกอย่างทั้งเบอร์และก็วีแชท ฉันขอโทษนายด้วยนะที่ฉันไม่ได้บอก” ก็แหม่ ผมก็ลืมจริงๆน่ะครับ ฮ่าๆๆๆ

“โอเคๆ ฉันก็เรียนหนักมากกกกกกกกกกกกกกก แต่เดี๋ยวราวน์เสร็จเราไปกินกาแฟกันนะ อยากคุยกับนายมากเลย”

“อื้ม ได้เลย” หวังหยวนกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง เพื่อนคนนี้ยังสดใสไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะ นี่แหละคือความหวังหยวน ตัวสดใสประจำห้อง 601

หลังจากที่ผมราวน์เสร็จ หวังหยวนก็ลากผมมาที่ร้านกาแฟที่อยู่หลังโรงพยาบาล ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ผมก็เพิ่งรู้นะครับว่ามีร้านน่ารักๆแบบนี้ ถึงคราวที่จะบอกลากาแฟโรงอาหารซะแล้วล่ะ

พอก้าวเข้ามาในร้าน กลิ่นกาแฟก็หอมคลุ้งเข้ามาเตะจมูกผม ร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทรไม้สีอ่อนๆ ทุกมุมของร้านตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีขาวและสีแดง เสียงเพลง country เบาๆ บรรยากาศดีมากเลยครับ ลืมความมึนหัวตอนเช้าไปได้สนิทเลย หวังหยวนบอกให้ผมนั่งรอที่โต๊ะ แล้วมันก็เดินไปที่เคาท์เตอร์ทันที่โดยที่ไม่ถามผมสักคำว่าผมอยากกินอะไร

“อเมริกาโนสองช็อตกับมอคค่าเฟรปเป้ราดช็อกโกแลตไซรัปเยอะๆ แล้วก็บลูเบอร์รี่ชีสเค้กกับแพนเค้กรูปหมีครับ” เฮ้ย หวังหยวนจำของโปรดผมได้หมดเลยครับ ทุกรายละเอียดนี่มาเต็มมากๆ จนผมเองก็อึ้งไปเลย 

ผ่านไป 6 ปีแล้วมันจำไงวะ

“นี่นายจำของโปรดของฉันได้ด้วยหรอ”

“อื้ม จำไม่ได้ก็แปลกละ กลุ่มเราไปเที่ยวกันทีไร นายก็กินแต่แบบนี้อ่ะ” อืม ก็จริงของมัน ผมก็สั่งแต่อะไรเดิมๆ ไม่คิดที่จะเปลี่ยนเลย ก็บางอย่างผมเคยเปลี่ยน แล้วมันไม่อร่อยครับ ผมก็เลยเข็ดอ่ะ ฮ่าๆๆ

“นายเป็นไงบ้าง ได้เป็นหมอสมใจแล้ว” ผมเปิดคำถาม หวังหยวนยิ้มก่อนที่จะตอบผม

“ก็ดีนะ แต่เหนื่อยมากเลยอ่ะ ตอนแรกคิดว่าเป็นหมอจะได้นั่งตรวจคนไข้สบายๆในห้อง แต่ไม่ใช่เลยอ่ะ ต้องมาทั้งราวน์วอร์ด เข้า LR,OR สารพัดอ่ะ ดูสิ ขอบตาฉันดำหมดแล้ว แบร่” ว่าแล้วหวังหยวนก็เอานิ้วดึงขอบตาล่างให้ผมดู แถมแลบลิ้นใส่อีก ท่าทางตลกของเพื่อนผมทำให้อดที่จะหลุดขำออกมาไม่ได้เลย

(LR=ห้องคลอด, OR=ห้องผ่าตัด)

“นายนี่ยังตลกไม่เปลี่ยนเลยนะ ถึงว่าสาวๆถึงอยากเข้าหานาย” หน้าตาที่ดูหล่อแบบหวานๆ พร้อมกับนิสัยทะเล้นขี้เล่นแบบนี้นี่สเปคสาวๆเลยครับ ผิดกับผม ที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่ถ้ากับคนไหนที่ผมรู้สึกว่าคนนี้ควรเปิดใจ ผมก็จะค่อยๆเริ่มพูดมากขึ้น คุยในแบบเพื่อนไปก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าสนิทกันแล้ว ผมก็จะไม่เกร็งและเป็นธรรมชาติมากๆ อย่างเช่นผมกับหวังหยวน

“เฮ้อ คนมันฮอตก็อย่างนี้อ่านะ แต่ก็อย่างว่า แต่ละคนที่เข้ามาหาฉัน ฉันก็ลองคุยๆดูนะ แต่ไม่มีใครที่เข้ากันได้ ก็เลย...” หวังหยวนมองหน้าผมอยู่สักพักนึง สายตาดูล่อกแล่ก เหมือนไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง ผมมองหน้ากลับด้วยความสงสัย แถมยังค้างบทสนทนาเอาไว้ ก็เลย...ก็เลยอะไรของมัน

“ก็เลยอะไรหวังหยวน”

“โสดไง ฮ่าๆๆๆ”

“ถ้าเป็นตอนมัธยมฉันโบกหัวนายไปแล้วนะเนี่ย แต่กลัวผมนายเสียทรงน่ะ ฮ่าๆๆๆ” ผมแอบแซวหวังหยวน วันนี้ผมมันเหมือนเซ็ตมาอย่างดี โอ้ยไอ้นี่นิ ชอบทำให้ลุ้นอยู่เรื่อย ถ้าเป็นตอนมัธยมผมก็จัดการโบกไปแล้ว แต่นี่โตๆกันแล้วครับ ต้องสำรวมหน่อย

เราสองคนหัวเราะร่าเริง กินขนม คุยสัพเพเหระกันอยู่จนถึงบ่ายโมง หมดเวลาพักเที่ยงพอดี หวังหยวนต้องขึ้นไปตรวจ OPD ภาคบ่าย ส่วนผมก็กลับไปที่วอร์ด ไปจ่ายยาให้คนไข้ต่อ แต่ก่อนที่จะทำงาน ผมขอเล่นมือถือแป๊บนึง เหมือนจะมีคนมาอัพโมเม้น
(OPD=แผนกผู้ป่วยนอก)




‘เมล่อนที่น่ารักของผมสุกแล้ว ถึงเวลาที่จะเก็บเกี่ยวแล้วล่ะ’

ปลูกส้มแล้วยังปลูกเมล่อนอีกหรอเนี่ย จะปลูกอะไรเยอะแยะขนาดนั้น ท่าทางสวนจะใหญ่ไม่เบาเลยนะครับ พอเห็นลูกเมล่อนก็ชักอยากจะกินแล้ว ลูกใหญ่กำลังสวยเชียว ไม่รู้ว่าเมล่อนชิงเต่าจะสู้เมล่อนจากญี่ปุ่นได้ไหมน้ออออ  

กดไลค์ซะหน่อยเป็นกำลังใจให้เค้าหน่อยครับ ในเมื่อเค้ามีน้ำใจให้ อุตส่าห์ทำแพนเค้กให้กิน ก็ถือว่าเค้าใจดีมากๆแล้วนะครับ ผมไม่เคยเจอคนที่พุ่งเข้าชาร์ตผมแบบนี้เลย แล้วผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมความรู้สึกรำคาญมันค่อยๆหายไป บางทีเค้าอาจจะถูกชะตา อยากเป็นเพื่อน อยากรู้จักกับผมก็ได้นะครับ ดีใจเหมือนกันที่มีคนเข้าหา เพื่อนสนิทของผมทุกคน ผมเข้าหาพวกเขาก่อนทุกครั้ง เว้นหวังหยวนไว้คนนึงครับ ฮ่าๆๆ เพราะผมไม่ค่อยเฟรนด์ลี่เท่าไหร่ ถ้าคุณแม่ของผมไม่แนะนำตอนเข้ามหาลัยว่าให้เข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่เองบ้าง ผมก็คงไม่รู้จักเพื่อนที่ดีอีกหลายๆคน

กดไลค์ไปไม่ทันไร คุณจวิ้นข่ายก็ตอบกลับมาไวเหลือเกินนนน

Junkai : คุณเภสัชอยากกินเมล่อนไหมครับ ไว้วันอังคารหน้าตอนเช้าผมไปหาหมอเดี๋ยวผมเอาไปฝากนะ คุณเข้าเวรตอนไหนบอกผมได้ไหม

นี่เป็นชาวสวนหรืออับดุลเอ้ยครับ ทำไมรู้ไปหมดทุกเรื่อง แม้กระทั่งใจผมตอนนี้

Qianxi : ผมกดไลค์ไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับอย่าถือสาผมเลย ไม่ต้องเอามาฝากหรอก เกรงใจคุณเปล่าๆ

มือพิมพ์ตอบไปด้วยความเกรงใจ แต่สายตาผมมองลงไปยังรถเข็นผลไม้ข้างล่างแล้วครับ ลุงคนขายกำลังสักเมล่อนฉับๆเลย งื้ออออ

Junkai : ไม่อยากกินจริงๆอ่ะ 


แล้วคุณจวิ้นข่ายก็ส่งเมล่อนที่ปอกเสร็จแล้วมาให้ผม มันน่ากินมากกก แงงงงง้ จะเปิดวอร์กับผมใช่ไหมมม

Qianxi : ไม่เป็นไรจริงๆครับ ขอบคุณมากๆเลยนะครับ

พิมพ์ตอบไปเสร็จผมก็รีบปิดมือถือทันที พยายามระงับมือของตัวเองไม่ให้ลั่นส่งไปว่าวันอังคารเช้าผมก็เข้าเวรห้องยา OPD ตรงกับเวลาที่คุณชาวสวนจะมาหาหมอพอดีเป๊ะ ผมรีบเดินกลับเข้ามาที่โต๊ะทำงาน หยิบงานขึ้นมาทำให้หายฟุ้งซ่านทันที แต่...

“เชียนซี กินเมล่อนกับพี่ไหม อร่อยมากเลยนะ” รุ่นพี่เภสัชทักทายผมเดินเข้ามาพร้อมกับถุงเมล่อน พี่เค้านั่งลงพร้อมกับจิ้มเมล่อนใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย ผมก็ได้แต่มอง....มอง...ละก็...

“ขอชิ้นนึงนะพี่” อดใจไม่ไหวจริงๆครับ โอ้ยยย เพราะคุณจวิ้นข่ายแท้ๆเลยนะครับ ปกติผมนี่ปฏิเสธพี่ๆเค้าตลอด จนมาวันนี้ผมขอพี่เค้าชิมเป็นครั้งแรก ครั้งแรกจริงๆครับ ฮือ

“เอาเลยๆ กินเยอะๆเลยนะ” รุ่นพี่ผลักถุงเมล่อนมาให้ผมหมดเลย แหม่ ขอแคชิ้นเดียวเองครับ

“พอแล้วครับพี่” โอ่ย อี้หยางเชียนซีหายอยากเมล่อนแล้ว แต่เมล่อนที่พี่เค้าซื้อมายังสู้ของญี่ปุ่นไม่ได้เลยแฮะ


ไว้รอดูวันอังคารก็แล้วกันครับว่าคุณชาวสวนจะหิ้วเมล่อนมาฝากผมจริงๆไหม


ไม่ใช่บ้าจี้หิ้วเอามาให้จริงๆนะ ถ้าจริงผมก็อึ้งกิมกี่ไปเลย


อีก 4 วันมาติดตามกันครับ 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เย้ๆๆ จบลงไปแล้วกับ ep.5 หลังจากที่ไรท์หายไปสอบพักใหญ่ ตอนนี้กลับมาแล้วนะคะ ฮ่าๆๆ กลับมาพร้อมคุณเภสัชที่เปิดใจมากขึ้น ความโลกสีชมพูของคุณชาวสวน และคุณหมอหวังหยวนที่เข้ามาทำงานที่เดียวกับคุณเภสัช มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน มาลุ้นกันค่ะว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ฝากติดตามด้วยนะคะ ติชม สกรีมได้ที่ tag > #DrugdailyKQ ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[Fic] #KaiQian - Drug for Daily Love ep.5



-5-



Junkai’s part

ครืนนนน ครืนนนน’ โอ่ย เสียงเครื่องปั่นทำไมดังตั้งแต่หัวรุ่งเลยครับ คุณม๊าตื่นเช้าขึ้นมาทำอะไรอีกเนี่ย วันนี้วันศุกร์ มันควรเป็นวันที่ผมตื่นสายสิ นี่ผมต้องมาตื่นเพราะเสียงครืนๆที่ดังก่อนเวลานาฬิกาปลุกตั้ง 2 ชั่วโมง ไม่พูดพร่ำทำเพลง 

ผมเดินลงไปดูสักหน่อยหน่อย ผมว่าคุณม๊าทำอะไรให้ผมลองทานอีกแน่ๆ
พอลงมาข้างล่าง ผมก็เห็นเมนูอาหารเช้าแบบฝรั่งจ๋าวางอยู่เรียงรายเต็มไปหมดเลยครับ ทั้งไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ขนมปังพร้อมแยม และน้ำส้มจากสวน แต่วันนี้พิเศษหน่อย เพราะทุกชุดอาหารที่คุณม๊าจัดจะมีผักสลัดวางอยู่ข้างๆด้วย

แต่เอ๊ะ ใครเค้าทานสลัดตอนเช้ากันนะ

ม๊า คิดยังไงถึงทำสลัดให้ทานตอนเช้าเนี่ย” ผมเดินงัวเงียเข้าไปหาม๊าที่กำลังเอาน้ำสลัดใส่ขวดแก้ว
ลูกคิดดูนะ ว่าถ้าเราทานผักสดๆตอนเช้า มันจะสดชื่นมากแค่ไหน ม๊าแอบทานมาสามวันแล้วนะ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าทุกเช้าเลยนะ ไม่เชื่อก็ลองดู เดี๋ยวม๊าเตรียมอาหารอีกชุดให้ คิดว่าลูกจะตื่นสิบโมง” โห คุณม๊าก็เล่นปั่นเครื่องปั่นดังซะขนาดนี้ ถ้าไม่ตื่นผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วครับ

ผมเดินไปนั่งรอที่โต๊ะ สักพักคุณป๊ากับเจ้าจวิ้นหลินก็เดินลงมาจากชั้นบน พอน้องชายตัวแสบเห็นผมก็ทำหน้าตกใจ แหม ผมตื่นเช้านี่แปลกตรงไหนครับ

เฮียตื่นเช้าจัง สงสัยวันนี้ฝนจะตกหนักละมั้ง คริๆๆๆ” เด็กบ้าอะไรหัวเราะคริๆได้น่าโบกที่สุดในสามโลกเลยครับ ตอนนี้ป๊ากับม๊าอยู่ เกรี้ยวกราดเป็นเสือดาวใส่น้องไม่ได้เลยจริงๆ

ก็ม๊าปั่นน้ำสลัดซะดังลั่นบ้านขนาดนี้ มีใครไม่ตื่นมั่ง”

ผมไงเฮีย ต่อให้เฮียมากรี๊ดใส่หูผมก็ไม่ตื่น” ดู๊ดู พูดได้แบบ... แล้วคุณป๊าก็หัวเราะไปกับน้องมันด้วยนะ โหย สามัคคีกันเหลือเกิน ใช่ซี้ ผมมันโตแล้วนี่

เอาล่ะจวิ้นใหญ่ สงบสติไว้ อย่าเพิ่งโบกน้อง เอ็งเป็นพี่ เอ็งเป็นพี่ เอ็งเป็นพี่ ท่องวนไปครับ
นั่งกอดอกสงบจิตสงบใจสักพัก ม๊าก็เอาอาหารอีกชุดหนึ่งมาเสิร์ฟให้ผม โหย พอได้เห็นใกล้ๆมันไม่ธรรมดาจริงๆครับ อาหารถูกจัดเหมือนในโรงแรมระดับ 5 ดาวเลย ช้อนส้อมมีดอะไรนี่วางเป๊ะๆมาก แถมบรรยากาศที่มองออกไปข้างนอกก็เห็นภูเขาสีเขียว ฮือออ มโนเอาก็แล้วกันว่ามาพักโรงแรมที่สวิส ฮ่าๆๆๆ

ผมเอาผักในจานจิ้มลงบนน้ำสลัดที่ม๊าผมทำ พอกัดและเคี้ยวเข้าไปคำแรก โอ้ยยย ฟินนน สัมผัสได้ถึงรสชาติที่ละมุนลิ้น ม๊าทำน้ำสลัดได้อร่อยมากกกกกก อร่อยจนผมอยากจะเสนออะไรบางอย่างให้ม๊าเอาไปพิจารณาเลยครับ

ม๊าสนใจทำสลัดเป็นกล่องๆพร้อมกับน้ำไปขายในเมืองไหมครับ รสชาติน้ำสลัดของม๊าคือมันดีงามมากๆเลย อร่อยกว่าสลัดแพงๆในห้างซะอีกแหน่ะ” พอผมพูดจบปุ๊บ ม๊าก็ทำตาลุกวาวทันที

อื้ม ก็ดีเหมือนนะ ช่วงนี้ผลไม้อย่างอื่นก็ยังไม่ออก ลองทำดูแล้วกัน คุณว่าดีไหมคะ”

ดีๆๆๆ เราจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย” ม๊าหันไปถามป๊า ซึ่งป๊าก็พยักหน้าเห็นด้วย น่าจะเป็นเพราะว่าส้มทั้งหมดที่ปลูกมานั้นเก็บเอาไปขายหมดแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่ถึงหน้าของผลไม้อีกหลายชนิด ทำให้ไร่ของผมดูเป็นป่าไปซะงั้น ไม่มีผลหมากรากไม้ที่งอกออกมาเป็นสีสันแซมๆสักนิดเดียวเลย

เดี๋ยวผมไป search ดูก่อนนะครับว่าวันไหนมีตลาดเปิดท้ายมั่ง ผมว่าน่าจะขายได้ดีกว่าไปฝากร้านเขาขายนะ” หลายคนคงสงสัยว่าเอ๊ะ จบตั้งเศรษฐศาสตร์จากเมืองนอกเมืองนา ทำไมมีความคิดแค่นี้ ทำไมถึงไม่ไปเปิดร้านขายเองเลยล่ะ เหตุผลก็คือผมและครอบครัวทำอาชีพแบบพออยู่ได้ครับ ไม่มากจนถึงขนาดร่ำรวย ไม่น้อยจนถึงขั้นไม่มีจะกิน ผมว่านะชีวิตแบบนี้มันสมดุลนะ ไม่ต้องแสวงหาดิ้นรนอะไรมากมาย แค่เราอยู่กันอย่างมีความสุข ไม่ถูกเบียดเบียนก็พอแล้วครับ


โถ่ หล่อไปอีกจวิ้นข่าย ฮาๆๆๆ


หื้ม ตลาดนัดหลังโรงพยาบาลชิงเต่าหรอ” ผมคิดในใจ ดูเหมือนโชคชะตาจะเป็นใจให้เราสองมาเจอกันอีกแล้วครับ ผมนั่งหาตลาดนัดที่พอจะเอาของไปขายได้ แล้วดูชื่อตลาดที่ขึ้นมาสิครับ หลังที่ทำงานใครเอ่ย ผมเผลอยิ้มออกมาจนเด็กจวิ้นหลินที่นั่งตรงข้ามทำเป็นไอค่อกไอแค่กใส่ผม

เฮียนี่มีลับลมคมใน” พูดไปมือก็พลางจิ้มไส้กรอกใส่ปากไป

ที่ฉันยิ้มเพราะฉันได้ทำเลดีโว้ย เอ็งกินๆไปเถอะ อย่าพูดมาก” แถจนสีข้างถลอกแล้วครับ เรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกใคร รอไปสักพัก รอให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่านะครับ



แหม พูดยังกับดาราดัง



รู้สึกดีต่อใจยังไงไม่รู้ อุปสรรคในการไปหาตัวคุณเภสัชนี่ไม่ค่อยมีนะ แต่ยังไงก็สู้ปัญหาที่ใหญ่กว่าไม่ได้ นั่นก็คือการที่ทำให้เขาไว้ใจ



อย่าเพิ่งดราม่าสิจวิ้นข่าย เจอกันไม่กี่ครั้งเอง



มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ครับ ฟ้าเป็นใจซะขนาดนี้แล้ววววว


หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ที่จริงวันนี้ผมควรออกไปเช็คสภาพดินประจำสัปดาห์ แต่ทว่าผมยังตรวจบัญชีที่ค้างไว้ยังไม่เสร็จเลย เพราะมัวแต่รอคุณเภสัชทั้งคืนเลย

พอพูดถึงหัวใจก็คิดถึงอีก โอ้ย จะพร่ำเพ้ออะไรขนาดนี้ครับ ไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองเลยจริงๆ เดี๋ยวดิ่งเดี๋ยวคึก เดี๋ยวคิดถึง วนไปแบบนี้แหละครับตั้งแต่เจอคุณเภสัชมา ผมคิดว่าผมมาอยู่จีนถาวรคงจะครองตัวเป็นโสดตลอดชีวิต แต่โชคชะตาก็เล่นสนุก พาผมมาให้พบกับคนที่ผมไม่น่าจะชอบได้ แต่ก็ดันชอบขึ้นมาตั้งแต่แรกเห็น เขาเรียกมันว่า ‘พรหมลิขิต’ ใช่ไหมครับ


รอคำตอบจากสวรรค์ ถ้าเป็นจริง ชาตินี้ก็ต้องไม่แคล้วกันสินะ !!!


อยากทักแชทจัง แต่ไม่ดีกว่า ตอนนี้อาจจะเข้าเวรอยู่ก็ได้ ดูโมเม้นสักนิดนึงว่าคุณเภสัชชอบอัพรูปอะไรบ้าง
พอผมเปิดมาหน้าแรก ผมก็เห็นโมเม้นล่าสุดอัพเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว เป็นรูปริมแม่น้ำข้างหน้าโรงพยาบาล โหย ถ่ายได้สวยมาก ปกติผมไม่เคยเห็นหน้ารพ.สวนขนาดนี้ ฝีมือการถ่ายภาพไม่ธรรมดาเลยนะครับเนี่ย  

เลื่อนไปเรื่อยๆก็เจอแต่รูปแพนเค้ก แพนเค้ก และก็แพนเค้ก พร้อมระบุร้านด้วยว่าร้านชื่ออะไร อยู่ตรงไหน ความอร่อยได้ระดับเท่าไหร่




คุณเภสัชชอบทานแพนเค้ก

ละดูท่าทางชอบมากโดยเฉพาะแพนเค้กรูปหมีน้อยเนี่ย ผมสังเกตว่าร้านไหนที่ทำรูปหมี คุณเขาจะมีหัวใจในแคปชั่นเยอะๆ

โอ้ย ไม่คิดว่าคนขรึมๆจะมีมุ้งมิ้งอะไรแบบนี้ ><

ว่าแล้วก็อยากหัดทำแพนเค้ก…แต่สกิลการทำอาหารของผม มันค่อนข้างไปทางห่วยแตก…
แต่ไม่เป็นไรครับ ฝึกทำไปเรื่อยๆ อร่อยก็ไชโย ไม่อร่อยก็ทำจนกว่ามันจะอร่อยนี่แหละ

ผมดูวิธีการทำแพนเค้กใน internet ดูๆแล้วผมก็ว่ามันทำไม่ยากนะ แต่จะอร่อยไหมก็อีกเรื่องนึงครับ

พอดูเสร็จผมเดินลงไปข้างล่าง เข้าห้องครัวไปหาพวกแป้ง เนย กลิ่นวนิลา ไข่ ไซรัป ค้นๆไปบ้านผมมีหมดทุกอย่างเลยครับ แต่เอ๊ะ ทำไมม๊าไม่เคยทำให้ผมกินเลยหว่า หรือว่าจะทำให้จวิ้นหลินกินตอนเช้าเท่านั้น 😂

น้องชายตัวแสบของผมเดินผ่านห้องครัว แล้วเห็นผมกำลังยืนไล่ลำดับว่าจะต้องใส่อะไรก่อน น้องมันคงสงสัยเลยวิ่งเข้ามาหาผมทันที

เฮียจะทำอะไรน่ะ แล้วมันจะกินได้ไหม” โหย คำถามแรกก็กวนโอ้ยผมซะแล้ว ฮือ แต่ก็จะไปโบกไม่ได้ละ เพราะมันคือความจริงว่าผมทำอาหารอะไรมันก็กินไม่ได้สักอย่าง

แพนเค้ก แต่เอ็งต้องรอชิมของเฮียนะ ห้ามไปไหน !!” ผมพูดพร้อมกับเอานิ้วจิ้มไปตรงหน้าผากเจ้าตัวแสบ เด็กข้างหน้าบึนปากใส่ผม

ได้ครับ แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวพอนะเฮีย ผมไม่อยากท้องเสียน่ะ” เอะอะก็แซะผมตลอดไอ้น้องคนนี้เนี่ย อายุไม่กี่ขวบปากก็จัดซะแบบ เฮ้อ

“งั้นเอ็งช่วยอ่านวิธีทำที่เฮียจดนะ เดี๋ยวเฮียจะทำตามที่เอ็งบอก” ไหนๆน้องมันก็มาแล้ว ก็ให้ช่วยบอกวิธีทำเลยก็แล้วกัน ช่วงนี้เด็กฮ้าวเฉียงเพื่อนเล่นของน้องผมที่อยู่ข้างบ้านคงจะยังไม่กลับจากในเมือง เพราะไปเรียนพิเศษ ส่วนน้องผมคงจะให้เรียนตอนม.ปลายทีเดียวเลยครับ ตอนนี้ก็ปล่อยให้เรียนๆเล่นๆไปก่อน

“เคครับ”

“ดีมาก” ผมเอามือขยี้ผมน้องมันแรงๆด้วยความเอ็นดู อิอิ ให้มันได้อย่างนี้สิน้องรักของผม ฮ่าๆๆๆ

ว่าแล้วจวิ้นหลินก็เริ่มอ่านวิธีทำ ผมก็จัดการทำตามโดยเอาแป้งกับเกลือและน้ำตาลมาร่อนๆๆๆแล้วเอามาผสมกับไข่ ใส่นมสดและเนยละลายตามลงไป ตีๆๆๆๆ ตีจนแป้งในชามเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นผมก็ตั้งกระทะ ทาเนยให้ทั่วๆ ก่อนที่จะหยอดแป้งลงไป จวิ้นหลินเดินดุ๊กดิ๊กมาดูข้างผมๆ ผมยิ้มให้กับแพนเค้กฝีมือตัวเองที่ทำเป็นครั้งแรก ภูมิใจอ่ะครับ แต่คนน้องที่ยืนอยู่ข้างๆนี่สิทำไมทำคิ้วขมวดเป็นปมขนาดนั้น

“เฮีย ทำไมมันไม่ฟูเลยอ่ะ” จากที่ผมยิ้มแป้นก็หุบยิ้มลงทันที เออ ทำไมแป้งมันไม่ฟูเหมือนกับที่ดูในเน็ตเลยอ่ะครับ หรือว่าผมเขียนข้ามขั้นตอนไป หรือลืมส่วนผสมอะไรบางอย่าง

“เออ นั่นสิ เอ็งอ่านทุกขั้นตอนไหม” ผมถามจวิ้นหลิน น้องชายผมก็ส่ายหน้ารัวๆ

“เฮียลืมผงฟูแน่ๆ” จวิ้นหลินบอกผม ผมก็รีบไปที่โต๊ะเตรียมอาหาร สายตากวาดมองไปทั่วโต๊ะ ก็พบว่า...ผมลืมหยิบผงฟู

โอ้ยยยยย ตีแป้งซะกะละมังใหญ่ ลืมผงฟูไปนิดเดียวเอง ฮือออออออออ

“เออว่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเฮียตีแป้งใหม่” ใครว่าผมจะท้อง่ายๆครับ ไม่มีทางหร๊อก ผมเริ่มทำทุกอย่างใหม่ทั้งหมด เสียดายของนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร

คราวนี้ผมหยอดแป้งที่ผสมลงในกระทะ ยืนรอลุ้นกับจวิ้นหลิน รอสักพักแป้งมันก็ขึ้นฟูเป็นฟองปุดๆเลยครับ สำเร็จละ แพนเค้กของผม อร่อยแน่ๆ ผมวางแพนเค้กลงในจานพร้อมกับราดไซรัปรสสตรอเบอร์รี่หอมๆ โง้ยย น่ากินมากกกกก แต่จะอร่อยไหมก็ต้อมถามจวิ้นหลินแล้วครับ ฮ่าๆ

เสร็จแล้ววววว แพนเค้กร้อนๆแผ่นแรกของหวังจวิ้นข่าย

“ไหนเอ็งลองมาชิมซิ” ผมยื่นจานให้จวิ้นหลิน น้องผมก็ตักแพนเค้ก เป่าสองสามทีแล้วก็ยัดใส่ปาก

“กินแล้วอย่าลืมบอกด้วยว่ามันใช้ได้ไหม” ผมรอคำตอบของน้องอย่าใจจดใจจ่อ จวิ้นหลินทำหน้าแหยๆ ผมก็เริ่มใจเสียแล้วครับ เฮ้อ ไม่อร่อยแน่ๆอ่ะ

“โหยเฮีย ผมไม่เชื่อว่าแพนเค้กอันนี้เฮ้ยทำอ่ะ ครูสอนทำอาหารที่ไหนมาเข้าสิงเฮีย ทำไมอร่อย” โอ้ย เด็กนี่มันหลอกผม อร่อยแล้วจะทำหน้าแหยๆใสเพื่อ ฮืออออ ดีใจจจ ทำครั้งแรกน้องก็ชมแล้วว่าอร่อย โอ้ยยย ผมดีใจมากจนยิ้มแก้มแทบปริเลย

“แล้วเอ็งมาทำหน้าแหยๆใส่ทำไมวะ ทำไมไม่ทำหน้าระรื่นแบบในรายการอาหาร”

“ผมแกล้งเฮียไง ง่ายๆ ฮ่า” โหยเด็กนี่ กวนตลอด 24/7 เลยนะ ฮือ ผมจะไม่บอกว่าจะโบกน้องไปอีก 2 อาทิตย์ แงงง้

อย่างน้อยเจอคุณเภสัชครั้งหน้า ผมหวังว่าผมจะได้ฝากแพนเค้กที่ทำด้วยความรักอันบริสุทธิ์ฝีมือผมไปให้เขานะ ถ้าเจอก็จะได้ให้ ไม่เจอก็ไม่เป็นไรครับ กินเองก็ได้ ฮ่าๆ

“เอ้อ เอ็งไปถามม๊าให้หน่อยว่าจะพร้อมขายสลัดเมื่อไหร่ ฉันจะได้โทรไปจองที่”

“ได้ๆ รอแป๊บเน้อ”

พอแพนเค้กอร่อยปุ๊บ ผมก็อยากจะทำไปให้คุณเภสัชปั๊บ โอ้ย นี่ผมจะมีมาตราการเร่งรัดคุณม๊าของผมให้รีบขายไวๆเลยหรอครับเนี่ย

ความรัก is calling มากๆ ฮ่าๆๆๆ

“เฮีย ม๊าบอกวันอังคาร แล้วบอกให้เฮียไปซื้อพวกกล่องมาใส่ด้วย” จวิ้นหลินเดินมาบอกผม พอได้ยินผมก็ดีใจเลย จะได้เจอคุณเภสัชอีกแล้ววววว

ได้เจอสักนิดนึงก็ยังดีครับ จะมาบึ้งตึงหรือจะเมินใส่ ผมก็อยากเห็นทั้งนั้น


รอให้ถึงวันอังคารไม่ไหวแล้วครับทุกคนนนนน

Qianxi’s Part

วันนี้ผมขึ้นมาทำงานบนวอร์ดเด็กครับ เป็นวอร์ดที่เสียงดังมาก จะจัดยาอะไรก็ต้องตั้งสติแล้วค่อยๆดูไป ถ้าใส่ยาให้คนไข้ผิดคน ผมล่ะซวยแน่ๆ ใครว่ามีแต่หมอครับที่ซวย เภสัชกรก็อาจจะซวยด้วยเช่นกัน
นอกจากเสียงเด็กจะดังแล้ว เสียงเม้ามอยของพี่พยาบาลสาวก็ดังไม่แพ้กัน

“แกกก ดูที่ยัยเฟยเจินสิ ถ่ายรูปคู่กับพ่อค้าขายสลัด หล่อมากอ่ะแกกก ดูๆๆๆ”

“ถ้าตัดหน้ายัยเฟยจินออกจะเป็นรูปที่เพอร์เฟคมากแก”

“จริงมะ ฮ่าๆๆๆ” เสียงเม้ามอยของพี่พยาบาลข้างนอกห้องดังมาถึงข้างในเลยครับ ผมรู้เลยว่าวันนี้พี่เขาคุยกันเรื่องพ่อค้าแซ่บอีกแล้ว คราวก่อนก็พ่อค้าขายถังหูลู่ มาวันนี้ก็พ่อค้าขายสลัดอีก

ตลาดนี้คือมีแต่พ่อค้าหล่อๆหรอ จะหล่อสู้ผมสักกี่คนกัน ฮ่าๆ

ใกล้เลิกงานแล้ว เย็นนี้ผมวางแผนว่าจะไปซื้ออะไรที่ตลาดสักหน่อย เพราะผมเบื่อที่จะกินมาม่าแล้ว เดี๋ยวผมจะร่วงหมดหัวเอา

“น้องเภสัชๆ เดี๋ยวออกเวรแล้วใช่ไหม”

“ครับ ทำไมหรอพี่” จู่ๆพี่พยาบาลคนสวยก็เดินเข้ามาถามผม สงสัยคงต้องวานให้ซื้อของขึ้นมาให้แน่ๆ

“พี่ว่าจะให้น้องฝากซื้อสลัดให้หน่อยน่ะ สัก 3 กล่อง แล้วก็ฝากถ่ายรูปคนขายเดี่ยวๆมาด้วยนะ พี่เห็นในวีแชทแล้วมีแต่ชะนี ขอบคุณน้าสุดหล่อ” นั่นไง เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ผมยังไม่ทันตอบรับพี่พยาบาลก็เอาเงินมายัดใส่มือผมแล้ว เผด็จการมาก

“เอ่อ ได้ครับ” ผมตอบรับไปตามมารยาท เฮ้อ ไม่เป็นไร ไหนๆก็จะเลิกงานแล้ว เสียเวลานิดหน่อยก็ช่างมันครับ มีอะไรๆก็ช่วยเหลือกันไป

เวลา 16.30 ผมเลิกงานแล้วก็ตรงดิ่งไปที่ตลาดทันที พอก้าวเข้าไปปุ๊บ โอ้โห ของกินเยอะมากเลยครับ อยู่ที่นี่มาตั้งเดือนนึงยังไม่เคยมาเดินเลย ติดเวรตลอด ก็ต้องกินมาม่าวนไปทุกวันครับ ก่อนที่ผมจะเพลิดเพลินกับของกินที่วางเรียงรายยั่วจนน้ำลายจะไหลแล้ว ผมต้องไปหาร้านสลัดผักพ่อค้าหล่ออะไรนั่นก่อน

เดินมาเกือบสุดท้ายตลาด ผมก็เห็นร้านสลัดที่มีสาวๆยืนต่อคิวถ่ายรูปกับพ่อค้ายาวเหยียดเลย และก็ยืนบังจนผมไม่เห็นหน้าพ่อค้าด้วยซ้ำ จะฮอตอะไรเบอร์นั้น

“สลัดกับพ่อค้าอันไหนอร่อยกว่ากันคะ” เสียงของเด็กวัยรุ่นผู้หญิงเอ่ยถามพ่อค้า คำถามนี้เรียกเสียงหวีดร้องของเหล่าผู้หญิงที่ยืนล้อมนั่นดังมากเลยครับ

“ไม่เชื่อก็ต้องลองซิคร้าบ”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” โหย กรี๊ดซะจนผมแสบหูเชียว

เอ๊ะ เสียงทำไมมันคุ้นๆครับ เหมือนเคยได้ยินมาก่อนเลย ผมพยายามเขย่งตัวมองไปที่ต้นเสียงนั้น

เฮ้ย นี่มันคุณจวิ้นข่าย !!!

ไหนบอกแค่ทำสวนไง ไหงมาขายสลัดวะครับ

ผมชั่งใจว่าจะเข้าไปซื้อดีไหม จะบอกไปว่าสลัดหมดแล้ว พี่นกนะครับ แต่ก็เสียมารยาทอีก และก็คงจะหมดยาก เพราะจากที่เขย่งมองแล้ว สลัดยังเหลืออีกเพียบเลยครับ สาวๆพวกนั้นซื้อไปก็คงจะเหลือถึงผมบ้าง

เดี๋ยวยืนรอเอาละกัน เดี๋ยวค่อยไปซื้อคนสุดท้าย

ยืนรอไป 45 นาที สาวๆที่ยืนล้อมก็ค่อยๆหายไป ผมมองสลัดบนโต๊ะก็ยังเหลืออยู่ประมาณ 4 กล่อง
เอาวะ เข้าไปซื้อก็ได้

“เอ่อ ยังขายอยู่ไหมครับ” พ่อค้าที่กำลังก้มลงหาของอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมา พอเห็นว่าเป็นผมก็ยิ้มจนเขี้ยวแทบจะข่วนผมแล้ว ดีใจอะไรขนาดนั้นนนนน

“คุณเภสัช !!! เอ่อะ ยะ...ยะ....ยังขายครับ จะเอากี่กล่องครับ” ดูท่าทางลุกลี้ลุกลนมาก ฮือออ ตลกอ่ะ ผมเผลอสบถขำออกมาด้วย ฮ่าๆๆๆๆ

3 กล่องครับ พอดีพี่พยาบาลฝากผมซื้อน่ะ” ผมหยิบกล่องสลัดขึ้นมาดู เฮ้ย ก็เข้าท่านะ มีไข่มีแฮม ผักก็ดูสดมากๆ น้ำสลัดก็น่ากินใช่ย่อยเลย

“แหมผมเหลือ 4 กล่อง คุณช่วยซื้ออีกกล่องไม่ได้หรอครับ นะๆๆๆ” ทำหน้าตาอ้อนวอนซะจนผมอยากเอาศอกตีหน้าผากสักทีนึง ผมว่าผมก็จะซื้อเพิ่มอีกกล่องแหละ แต่ผมขอแกล้งคุณจวิ้นข่ายอะไรนั่นก่อน

“แถมให้ไหมล่ะครับ” ผมลองถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง นึกว่าคุณจวิ้นข่ายจะทำหน้าบึ้งตึงงอน ที่ไหนได้ จัดการใส่กล่องที่สี่ให้ผมจริงๆเลยครับ

“ได้สิคร้าบ เพราะเห็นว่าเป็นคุณเภสัชเลยนะเนี่ย” คุณจวิ้นข่ายยื่นถุงสลัดมาให้ผม 4 ชุดจริงๆ เฮ้ยยย ทำถึงขนาดนี้เลยหรอ

“ไม่ต้องๆ ผมพูดเล่นครับ ผมกะจะซื้ออีกกล่องด้วยแหละครับ สลัดคุณน่ากินดี” ก็พูดไปตามตรง คุณพ่อค้าข้างหน้าก็ยิ้มแทบจะไม่หุบ แถมยังหน้าแดงอีก อะไรกันเนี่ย ผมแค่มาซื้อของนะ

“ไหนๆผมจะแถมให้แล้วก็เอาไปเลยครับ เอ้อ” พอพูดจบเขาก็หันไปหยิบกล่องขนมที่วางไว้อยู่ข้างหลังแล้วยื่นให้ผม

“แพนเค้กครับ ผมเห็นว่าคุณเภสัชชอบทานแพนเค้ก ผมเลยทำมาให้ รูปหมีมันอาจจะเหมือนหมีควาย แต่รสชาติผมรับประกันได้เลยว่า 10/10 แน่นอน เพราะผมใส่ใจอันบริสุทธิ์เข้าไปด้วยครับ” ผมมองเขาด้วยสายตาที่อึ้งมาก เขาก็ยังยิ้มพิมพ์ใจอยู่นะ แสดงว่าเขาแอบไปดูโมเม้นในวีแชทผมมาใช่ไหม ถึงได้รู้ว่าผมชอบกินแพนเค้กมากๆ

“ขอบคุณนะครับ” ผมรับขนมนั่นมาแบบงงๆ แล้วก็จ่ายเงินเขาไปตามราคาสลัดทั้ง 4 กล่องแล้วเดินกลับขึ้นไปที่ตึก

“บ๊ายบาย ทานให้อร่อยนะคร้าบบบบ” เสียงเจื้อยแจ้วของคุณพ่อค้าก็ดังเข้ามาในโสตประสาทของผม อยากจะหันไปดูหน้าตอนนี้จริงๆว่ายังยิ้มอยู่ไหม แต่ไม่เอาดีกว่าครับ ท็อปฟอร์มไว้ก่อน ฮ่าๆ
พอขึ้นลิฟท์ผมก็ยกกล่องแพนเค้กขึ้นมาดู เป็นแพนเค้กรูปหมีน้อย มาพร้อมกับไซรัปรสส้ม สตรอเบอร์รี่ 2 ลูก วิปปิ้งครีมหย่อมนึง หน้าตาเจ้าหมีน่ารักอยู่นะครับ เหมือนคุมะที่ผมชอบนะ และไม่เห็นเหมือนหมีควายตรงไหนเลยครับ

 ผมเผลอยิ้มออกมาอีกแล้ว เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นกับผมเนี่ย

เอ๊ะ เหมือนผมลืมถ่ายรูปเขา เดินมาซะไกลแล้ว แต่ยังไงก็ต้องเดินผ่านตลาดอยู่ดี หวังว่าเขายังไม่เก็บร้านนะ

ถึงวอร์ดปุ๊บ ผมก็เอาสลัดให้พี่พยาบาลปั๊บ แต่พี่เขาไม่ถามถึงสลัดหรอก ถามถึงแต่รูปถ่ายคุณพ่อค้า ผมก็บอกพี่เขาไปว่าลืมนะ เดี๋ยวถ่ายแล้วส่งให้ พี่เขาก็โอเค ไม่ได้ว่าอะไร

เสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็เดินกลับไปที่ตลาดเพื่อที่จะถ่ายรูปคุณพ่อค้า พอเดินไปถึงที่ร้านเขาก็กำลังเก็บของพอดี

“เอ่อ คุณจวิ้นข่ายครับ ผมขอถ่ายรูปได้ไหม” เขาหันมามองผมด้วยสีหน้าและแววตาที่สดใสเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่มันหยดลงมาก็ตาม

“ได้สิครับ ถ่ายคู่หรอ เดี๋ยวผมเช็ดหน้าก่อนนะครับ” เฮ้ยเดี๋ยวๆ ผมไม่ได้บอกว่าจะถ่ายคู่เลยนี่นา

“เอ่อ ไม่ใช่ครับ ถ่ายคุณเดี่ยวๆนะ พี่พยาบาลเขาอยากดู” ผมรีบยกมือห้ามคุณจวิ้นข่ายทันที แหม ผมอยากจะถ่ายคู่ด้วยซะที่ไหน

“อ่อ ผมก็ดีใจไป ก็ได้ครับ” พูดจบเขาก็ยืนนิ่งๆหล่อๆให้ผมถ่าย ผมบอกให้เปลี่ยนท่าเป็นชู 2 นิ้วเขาก็ทำตามนะครับ แววตาที่ผมเห็นคือเขาดูมีความสุขจริงๆ อาจจะเป็นเพราะสลัดขายหมดตั้งแต่วันแรกเลยมั้งครับ เลยมีกำลังใจที่จะทำต่อ

“ขอบคุณนะครับ” ผมบอกเขาไป คุณจวิ้นข่ายก็ส่ายหน้า แถมยังยิ้มให้ผมอีก ไม่เมื่อยหน้าบ้างหรือไง

“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมมีความสุขจริงๆ เฮ้อ สลัดขายหมดตั้งแต่วันแรกเลย ดีกับใจเหลือเกิน” ผมคิดไม่ผิดว่าวันนี้คุณพ่อค้าดีใจที่ของขายหมด พูดพร้อมกับเอาผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อบนหน้า ตามตัวก็เปียกเหงื่อไม่ต่างกันเลย

“ถ้าคุณทำแบงก์ชาติ คุณก็ไม่เหนื่อยแบบนี้หรอก” ผมก็พูดไปตามตรง เป็นผมผมก็เลือกทำงานในห้องแอร์สบายๆ ดีกว่าจะต้องมานั่งขายของ เจอกับอากาศร้อนแบบนี้นะ

“ความสุขมันต่างกันไงครับ งานที่แบงก์ชาติเงินเยอะ สบายก็จริง แต่คุณรู้ไหม มันทั้งกดดัน ทั้งเครียด เพราะมันคือองค์กรใหญ่ ทำอะไรก็ต้องเนี๊ยบ ต้องเพอร์เฟค ต้องดีๆๆๆ ไปหมดทุกอย่าง ผิดพลาดก็ไม่ได้ ทำไปนานๆสุขภาพจิตเสียครับผมบอกเลย” อืม มันก็จริงของเขาเนาะ ดูจากอารมณ์ที่เขาพูดแล้วเหมือนตอนนั้นเขาคงทำงานหนักมาก พอถึงขีดสุดมันก็ไม่ไหว ต้องเดินออกมายังจุดที่สบายใจ ผมว่าเขาคิดดีนะครับ

“อ่าๆ ผมเข้าใจครับ ก็เห็นดูเหนื่อยๆ”

“ผมเห็นคุณเภสัชผมก็หายเหนื่อยแล้วครับ ฮ่าๆ” มิวายทำตัวแบบที่เจอกันวันแรก เฮ้อ เห็นทีว่าจะต้องไปแล้วครับ เดี๋ยวเจอมุกบ้าบออะไรอีก

“งั้นผมกลับหอแล้วนะครับ ขอบคุณนะครับสำหรับแพนเค้ก”

“ผมยินดีครับ ไว้เจอกันอีกนะครับ” ผมยิ้มบางๆบอกลาคุณพ่อค้าเดินหันหลังกลับไปยังหอพัก


ถึงห้องพักผมก็หิวพอดีเลยครับ ว่าแล้วก็นั่งที่โต๊ะแล้วรีบเทสลัดใส่จานแล้วราดน้ำสลัดทันที หิวจนท้องร้องเป็นเพลงแล้ววววว

ชิมสลัดเข้าไปคำแรก ผมก็อึ้งเลยครับ มันอร่อยมากกกกก น้ำสลัดหวานเปรี้ยวกำลังดี ผักก็สดกรอบสุดๆ อร่อยจนผมกินหมดจานภายในเวลา 10 นาที เป็นเพราะว่าความหิวหรือความอร่อยกันนะ ฮ่าๆๆ

พอทานของคาวเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวาน ผมหยิบจานแบนสำหรับใส่แพนเค้กโดยเฉพาะ จัดการวางขนมรูปหมีนั่นพร้อมกับราดไซรัปรสส้มให้มันเยิ้มๆ ดูเหมือนทานที่ร้าน พอจัดแต่งจานเสร็จปุ๊บ ก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ทันที ผมดูรูปในมือถือที่ถ่ายไว้แล้วก็ยิ้มออกมา น่ารักดีนะครับ J

ชิมสักหน่อยสิว่าจะอร่อยไหม

อื้มมมม ใช้ได้เลยแฮะ แป้งนุ่มหวานกำลังดี ไซรัปรสส้มก็เหมือนจะทำเองด้วย อร่อยเช่นกันครับ ถ้าผมให้คะแนน ผมก็คงจะให้ 8/10 เพราะว่าแป้งบางไปนิด หวงของรึไงครับคุณพ่อค้า ฮ่าๆๆๆ
พอกินเสร็จผมก็ต้องเอารูปแพนเค้กลงโมเม้น...แต่ทว่าถ้าลงไป....จะเขียนว่าอยู่ร้านไหนดีล่ะ

ญาติคนไข้ฝากมาก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆ



ไม่อัพก็กลัวเขาจะเสียใจ อัพสักหน่อยก็แล้วกัน เป็นกำลังใจให้ ฮ่าๆ

มื้อนี้อิ่มอร่อยมากเลยครับ เสียเงินไป 15 หยวนเองครับ ได้ของกินมาตั้งสองอย่างแหน่ะ

บางที ผมก็ควรเปิดใจดูสักนิด ก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยนี่ครับ เผื่อจะได้เพื่อนใหม่จากชิงเต่าเพิ่มมาอีก 1 คนด้วยซ้ำ

มองโลกในแง่ดีอีกนิดนะเชียนซี J

อิ่มแล้วก็ต้องอาบน้ำนอน ไม่สิ ผมต้องสรุปรายการยาที่จะต้องสั่งซื้อในเดือนนี้อีก งานเยอะจริงๆเลยครับ ช่วยผมด้วยยยย

บ่นไปงานก็ไม่เสร็จหรอกครับ ฮ่าๆ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ บ๊ายบาย 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk : 
สวัสดีค่า หายกันไปนานพอสมควร วันนี้ไรท์กลับมาต่อแล้วนะคะ เผอิญช่วงนี้ไรท์อยากกินแพนเค้ก ไรท์เลยทำกินไปเมื่อวาน พร้อมกับรัวฟิคที่ได้พล็อตมาพอดีก่อนที่จะต้องลาไปสอบ 1 เดือนเต็มๆเลยแงงงง้ คุณเภสัชเริ่มเปิดใจให้กับคุณจวิ้นข่ายเล็กๆแล้วนะคะ หลังจากที่ฟอร์มจัดมานาน ฮ่าๆ ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับคุณจวิ้นข่ายเลยทีเดียว แววนกเริ่มน้อยลงแล้วค่ะ (ฮา) ฝากติชม หวีดกันได้ที่ tag #DrugDailyKQ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ :)